ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเยี่ยมราษฎรและการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จังหวัดขอนแก่น โปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน เข้าร่วมปฏิบัติงาน

ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงเยี่ยมราษฎรและการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ณ โรงเรียนน้ำพองศึกษา จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ โอกาสนี้ ทรงโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาประชาชนที่เจ็บป่วยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งโปรดให้นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ ๒ จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าร่วมปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อเสริมประสบการณ์การทำงานในพื้นที่จริงในการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน พร้อมทั้งปลูกฝังค่านิยมของการมีจิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเพื่อจะได้ออกไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รศ.พญ.ชนิสา โชติพานิช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผศ.นพ.วิสุทธิ์ ล้ำเลิศธน รักษาการรองคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยอาจารย์ และบุคลากร โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าร่วมปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่กับหน่วยแพทย์ พอ.สว. โดยมีประชาชนเข้ารับบริการตรวจสุขภาพครั้งนี้ รวม ๓๐๙ คน

จากนั้น ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเยี่ยมผู้ป่วยนำเฝ้า ๖ คน ซึ่งรายแรกป่วยด้วยโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก และภาวะขาดสารอาหารโปรตีนอย่างรุนแรง รายที่สองป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม รายที่สามป่วยด้วยโรคหัวใจโต ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ โรคผนังกั้นหัวใจล่างรั่ว รายที่สี่ป่วยด้วยโรคเลือดออกง่าย รายที่ห้าป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด และรายที่หกป่วยด้วยภาวะอาการอยู่ไม่นิ่ง ในการนี้ ทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้ป่วยด้วยความห่วงใย ทรงซักถามอาการรวมถึงความเป็นอยู่กับผู้ป่วยอย่างไม่ถือพระองค์ พร้อมกับทรงมีพระวินิจฉัยในการรับผู้ป่วยนำเฝ้าไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์และโปรดให้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่มีอุปกรณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็ว พร้อมกับพระราชทานเงินจากมูลนิธิจุฬาภรณ์แก่ผู้ป่วยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย